น้ำบาดาล เกิดจากน้ำฝนที่ตกลงมาแล้วซึมลงสู่ใต้พื้นดินถูกกักเก็บอยู่ในช่องว่างภายในชั้นดิน ชั้นหิน ผ่านการกรองตามธรรมชาติ จึงเป็นน้ำที่สะอาด สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ การไหลของน้ำบาดาลจะแผ่กระจายไปใต้พื้นดินทั่วทุกพื้นที่อย่างกว้างขวาง แตกต่างจากน้ำผิวดิน ที่ไหลไปได้ในเฉพาะส่วนที่เป็นแม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง เท่านั้นน้ำบาดาลของประเทศไทย พบว่า น้ำบาดาลมีมากกว่าน้ำจืดประเภทอื่นถึง 24 เท่า (1.1 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร) และมีการเพิ่มเติมของน้ำฝนลงไปชั้นน้ำทุกปี น้ำบาดาลมีทุกหนทุกแห่ง อยู่ลึกลงไปใต้ผิวดินมีจำนวนหลายชั้นในที่ความลึกตั้งแต่15 เมตร ถึง มากกว่า 1,000 เมตร ปัจจุบันนี้พัฒนาถึงความลึกระดับ 600 เมตร สามารถเจาะพัฒนามาใช้ได้ในทุกพื้นที่เป็นแหล่งน้ำที่มั่นใจได้ว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ตลอดไป
การเกิดของน้ำบาดาล
บนพื้นผิวโลกของเรานั้นมีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เป็นภูเขาสูง หุบเขา ที่ราบระหว่างภูเขา ทะเลทราย ที่ราบสูง ที่ราบลุ่มน้ำ ที่ราบชายฝั่งทะเล ไปจนถึงพื้นที่เกาะ สภาพการดำเนินชีวิตและกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ในแต่ละพื้นที่ก็ล้วนแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือต้องพึ่งพาอาศัยน้ำในการดำรงชีวิต
โลกของเรานั้นมีน้ำถึง 2 ใน 3 ประกอบไปด้วย "น้ำฟ้า หรือ น้ำในบรรยากาศ (Atmospheric water) ที่อยู่ในรูปของ ไอน้ำ เมฆ หมอก เมื่อกลั่นตัว ก็จะตกลงมาสู่พื้นดินในรูปของน้ำฝนหรือหิมะ กลายเป็น "น้ำผิวดิน (Surface water)" อันได้แก่ แม่น้ำ ลำธาร ห้วย หนอง คลอง บึง ทะเล และมหาสมุทร น้ำบางส่วนจะซึมลงสู่ใต้ดิน และถูกกักเก็บไว้ใน ชั้นดิน ชั้นหิน เป็น "น้ำใต้ดิน (Subsurface water หรือ น้ำบาดาล (Groundwater)" ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่มองไม่เห็น (Invisible resource) แต่สามารถพัฒนาขึ้นมาใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ความสัมพันธ์ของน้ำทั้ง 3 ชนิดนี้ เรียกว่า "วัฏจักรของน้ำ (Hydrologic cycle)"
วัฏจักรของน้ำ (Hydrologic cycle)"น้ำในโลกนี้กว่าร้อยละ 97 เป็นน้ำในทะเลและมหาสมุทรซึ่งเป็นน้ำเค็ม มีเพียงร้อยละ 3 เท่านั้นที่เป็นน้ำจืด ในร้อยละ 3 นี้ เป็นน้ำแข็งที่ขั้วโลกและธารน้ำแข็งถึงร้อยละ 2.3 เป็นน้ำใต้ดินร้อยละ 0.69 ส่วนน้ำจืดในแม่น้ำและแหล่งน้ำผิวดินทั้งหลายที่เราเห็นกันอยู่ คิดเป็นปริมาณน้ำเพียงร้อยละ 0.01 ของน้ำในโลกเท่านั้น น้ำใต้ดินจึงเป็นน้ำจืดที่อยู่ในรูปของของเหลวที่มีปริมาณมากทุกสุดบนโลก ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ได้ทันทีขณะที่ฝนตกลงมา น้ำส่วนใหญ่จะไหลหลากไปบนพื้นดินจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ และถูกกักเก็บไว้ตามแหล่งน้ำผิวดินต่างๆ น้ำฝน และน้ำในแหล่งน้ำผิวดินเหล่านี้ ส่วนหนึ่งจะไหลซึมลงสู่ชั้นดินชั้นหินที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวโลก โดยน้ำบางส่วนจะถูกกักเก็บอยู่ตามช่องว่างระหว่างเม็ดดิน ในบริเวณที่ยังมีการสัมผัสกับอากาศอยู่ (zone of aeration) เราจะเรียกน้ำส่วนนี้ว่า น้ำในดิน (Soil water) ซึ่งพืชจะสามารถนำน้ำส่วนนี้ไปใช้ได้เลยครับ
ต่อจากนั้นน้ำส่วนที่เหลือจะไหลซึมลึกลงไปจนถึงชั้นดิน ชั้นหินอิ่มตัวด้วยน้ำ (zone of saturation) โดยน้ำจะถูกกักเก็บไว้ตามรูพรุน ในช่องว่างระหว่างเม็ดตะกอน หรือตามรอยแตก รอยแยกในหิน จนกระทั่งตะกอน หรือหิน ดังกล่าวมีน้ำแทรกอยู่เต็มไปหมด ซึ่งน้ำที่ถูกกักเก็บไว้ในชั้นนี้แหล่ะครับที่เราเรียกว่า "น้ำบาดาล (Groundwater)" และผิวบนสุดของบริเวณที่อิ่มตัวด้วยน้ำนี้เรียกว่า ระดับน้ำบาดาล (water table)
ชั้นตะกอนร่วน หรือ หินแข็ง ที่เป็นแหล่งกักเก็บของน้ำบาดาลนี้ รวมเรียกว่า "ชั้นหินอุ้มน้ำ (Water bearing rocks)"ถ้าชั้นหินอุ้มน้ำใด มีความพรุนสูง มีคุณสมบัติยอมให้น้ำไหลผ่านได้ง่าย จะเรียกว่า "ชั้นหินให้น้ำ (Aquifer)" แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ชั้นหินให้น้ำไม่มีแรงดัน และ ชั้นหินให้น้ำมีแรงดัน
ในทางตรงกันข้าม เราจะเรียกชั้นตะกอนหรือหินที่มีเนื้อแน่น ไม่ยอมให้น้ำซึมผ่านได้ หรือซึมผ่านได้น้อยว่า "ชั้นหินกันน้ำ (confining layer)" อย่างเช่นชั้นดินเหนียว นอกจากนั้นยังมี "ชั้นหินให้น้ำปลอม (Perch aquifer)" ด้วย
Groundwater Caused by rain water that fall and then absorbed into the under ground is planted in spaces within chandin. Natural stone floors, it is filtered water can be reused. Different from surface water runoff in the Huai River Delta swamp Canal is only the nation's groundwater swamp Thai. I found that groundwater is more than freshwater and other categories to 24 times (1.1 trillion cubic metres), and there is more rain water ground water every year. Groundwater is everywhere. Live deep beneath the surface of many layers at depth from 15. M to greater than 1,0 meters, the current level of 600 meters in depth and development. Since it is a high mountain valley Plains between the mountains, the desert plateau basin plain coastal plain to the island areas. Conditions of life and of human activities in each area are different. 2 in 3 consists of blue water "or water in the atmosphere (Atmospheric water) in a haze of steam when condensing, it will fall to the ground in the form of rain or snow to become" water surface (Surface water) "including the river stream Huai Nong Canal. The sea and the ocean. Some water is absorbed into the ground, and was planted in a rock layer, chandin "underground water (groundwater or water Subsurface (Groundwater)", which is a body of water that are not visible (Invisible resource) The relationship of this type of 3 water called "the cycle of water (Hydrologic cycle)" the cycle of water (Hydrologic cycle) "water in the world with more than 97 percent of the water in the seas and oceans, which is salt water, only 3 percent is fresh water in 3 percent. 2.3 0.69 percent of underground water is the best water in rivers and water sources, all the surface we see each other. Water quantity is 0 percent.1 only in a world of water. Underground water is fresh water that is in the form of a liquid that has plenty of everything on Earth. We can be implemented as soon as the rain fall. Most of the water will flow to the range on the ground from the highest to the lowest. Rain water and water in these water sources, soil surface. Part will ooze into the stone floor, chandin deep beneath the surface of the Earth. Some water will be planted is stored according to the gap between rollers; In the area there are also exposed to the weather (the zone of aeration) Water in the soil (Soil water) in which the plants will be able to bring this water to use it lol: then the remaining water will ooze deep till chandin. Stone floor saturated with water (the zone of saturation), water will be planted, stored by capillary. In the gap between grain sediment. In a crevice in the rocks until the sludge or stones. It had inserted him. Where the water is stored in this layer collects it sucks that we called "deep underground water (Groundwater)" and the top surface of the water with a saturated area called the deep underground water level. Table rock-solid sludge layer) or ruan as the source of the groundwater catchment include called "stones to absorb water (Water bearing rocks)" If the stones to absorb any water. There is a plum high. Features allow easy-flowing water is called "stones, water (Aquifer)," he said. 2 types of stones, there are no water pressure and water pressure, there are stones in the opposite way. We will call the floor sediments or rocks with texture. Do not allow water to permeate through the ingress or less which means "stone floor waterproof (confining layer)," he said. There is also a "fake stones, water (aquifer Perch)";
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น