การคายน้ำของพืช

การคายน้ำของพืช

ปากใบพืชจำแนกตามชนิดของพืชที่เจริญอยู่ในสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็น 3 แบบ คือ

1.ปากใบแบบธรรมดา (typical stomata) เป็นปากใบของพืชทั่วไปโดย มีเซลล์คุมอยู่ในระดับเดียวกับเซลล์เอพิเดอร์มิส พืชที่ปากใบเป็นแบบนี้  เป็นพวกเจริญอยู่ในที่ ๆ มีน้ำอุดมสมบูรณ์พอสมควร (mesophyte)                 2.ปากใบแบบจม (sunken stomata) เป็นปากใบที่อยู่ลึกเข้าไปในเนื้อใบเซลล์คุมอยู่ลึกกว่าหรือต่ำกว่าชั้น เซลล์เอพิเดอร์มิสพบในพืชที่อยู่ในที่แห้งแล้ง (xerophyte) เช่น พืชทะเลทราย พวกกระบองเพชร พืชป่าชายเลน (halophyte) เช่น โกงกาง แสม ลำพู เป็นต้น                 3.ปากใบแบบยกสูง (raised stomata) เป็นปากใบที่มีเซลล์คุมอยู่สูงกว่าระดับเอพิเดอร์มิสทั่วไป เพื่อช่วยให้น้ำระเหยออกจากปากใบได้เร็วขึ้นพบได้ในพืชที่เจริญอยู่ในน้ำที่ ที่มีน้ำมากหรือชื้นแฉะ(hydrophyte) การคายน้ำของพืชเป็นไปในลักษณะของการแพร่เป็นส่วนใหญ่ แบ่งเป็น 3 ประเภท ตามตำแหน่งที่ไอน้ำออกมา คือ                 1.Stomatal transpiration เป็นการคายน้ำที่กำจัดไอน้ำออกมาทางปากใบซึ่งมีอยู่มากมายตามผิวใบ ปากนี้เป็นทางที่มีการคายน้ำออกมากที่สุด                 2.Cuticular transpiration เป็นการคายน้ำที่กำจัดไอน้ำออกมาทางผิวใบที่มี cuticle ฉาบอยู่ข้างนอกสุดของ epidermis แต่เนื่องจาก cuticle ประกอบด้วยสาร cutin ซึ่งเป็นสารประกอบคล้ายขี้ผึ้ง ไปน้ำจึงแพร่ออกทางนี้ได้ยาก ดังนี้ พืช จึงคายน้ำออกทางนี้ได้น้อยและ ถ้าหากพืชใดมี cuticle หนามากน้ำก็ยิ่งออกได้ยากมากขึ้นทั้ง stomatal และcuticular transpiration ต่างก็เป็นการคายน้ำที่กำจัดไอน้ำออกมาจากใบ จึงเรียกการคายน้ำทั้ง 2 ประเภทนี้รวม ๆ กันว่า Foliar transpiration การคายน้ำออกจากใบดังกล่าวนี้จะเกิดที่ปากใบประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์และที่ cuticle ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์                 3.Lenticular transpiration เป็นการคายน้ำที่กำจัดไอน้ำออกมาทาง lenticel ซึ่งเป็นรอยแตกตามลำต้นและกิ่ง การคายน้ำประเภทนี้เกิดขึ้นน้อยมาก เพราะ lenticel มีในพืชเป็นส่วนน้อยและเซลล์ของ lenticel ก็เป็น cork cell ด้วยไอน้ำจึงออกมาได้น้อย การคายน้ำในรูปหยดน้ำ เป็นการคายน้ำในรูปหยดน้ำเล็ก ๆ ทางรูเปิดเล็ก ๆ ตามปลายเส้นใบที่ขอบใบที่เรียกว่า โฮดาโธด (hydathode) การคายน้ำนี้เรียกว่า กัตเตชัน (guttation)ซึ่งเกิดขึ้นเมื่ออากาศมีความชื้นมากๆอุณหภูมิต่ำและลมสงบ

ปัจจัยในการควบคุมการคายน้ำใบไม้จะคายน้ำได้ช้าหรือเร็ว มากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมภายนอกและสภาพภายในของพืชเอง คือ                 1.แสงสว่าง ถ้าความเข้มข้นของแสงสว่างมากจะช่วยให้การคายน้ำมีอัตราสูงขึ้น                 2.อุณหภูมิ ถ้าอุณหภูมิของบรรยากาศสูง จะทำให้ใบคายน้ำได้มากและรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้เพราะว่า                        (1) เมื่ออุณหภูมิสูง อุณหภูมิของน้ำในใบก็จะสูงขึ้น ทำให้น้ำระเหยเป็นไอได้ง่ายและเร็วขึ้น จึงระเหยออกไปจากใบได้มากและเร็วขึ้นด้วย                        (2) เมื่ออุณหภูมิต่ำ อากาศภายนอกสามารถอุ้มไอน้ำเอาไว้ได้มากขึ้นปากใบเปิดได้ดีที่อุณหภูมิ 25 – 30 องศาเซลเซียส                3.ความชื้นถ้าหากความชื้นในบรรยากาศมีน้อยคือ อากาศความชื้นในบรรยากาศจึงแตกต่างกับความชื้น ในช่องว่างที่อากาศในใบมากทำให้การคายน้ำเกิดขึ้นได้มากและรวดเร็ว  อากาศชื้นใบจะคายน้ำได้น้อยและ ช้าลงตามทฤษฎีถ้าความชื้นอิ่มตัวใบไม่ควรจะคายน้ำเลยซึ่งก็เป็นความจริงกล่าวคือใบจะไม่คายน้ำ Dehydration of the plants stoma classified plants according to type of plants that thrive in any environment is a 3: 1. simple Stoma (typical stomata) is a common plant of the stoma by .There is the same level control cells, the cell's event American Miss. The plants stoma is growing as the inside are sufficiently abundant water. (mesophyte) 2.Stoma sunk (sunken stomata) is a stoma that is deep into the meat of the cells or lower stationed over the deep layers. The event is found in the cells of plants at the Miss international in that arid, desert plants (xerophyte) Cactus (archaic) The mangrove plants (halophyte) such as Mangrove samaedam lamphu etc 3.Stoma raised high (raised stomata) is the stoma with a cell-level control over the event is dedicated to common rider water evaporates out of the mouth of the faster growing plants found in the water in a very damp or dripping with water (hydrophyte) .Dehydration of the plants are in the nature of the spread is mainly divided into 3 categories based on where the steam comes out is 1.Stomatal transpiration is dehydration, which eliminate the steam comes out through the mouth which there are many along the surface of the leaves. The mouth is a dehydration issue at most 2 .Cuticular transpiration is the dehydration that eliminate the water vapor comes out to the surface with the glaze of the outer cuticle epidermis, but because the cuticle is composed of cutin, which is a substance similar to the wax compounds water spread out is difficult. The following plants If any plants are very thick cuticle also tends to be more difficult to design both stomatal and cuticular transpiration is different, it is a dehydration elimination of steam come out of the long run, all this category 2 dehydration sincerity that Foliar transpiration. 90 percent, and that about 10 percent of cuticle . 3.Lenticular transpiration is the dehydration that eliminate the water vapor comes out on lenticel as a crack on the trunk and branches. This type of dehydration occurs more because there is less crop in lenticel and lenticel as cork cells with cell water vapor so it comes out less .Dehydration in a drip, as dehydration in small water droplets. Through a small opening, as it leaves the edges of the known home of thot (hydathode) this is called dehydration guttation. Factor in controlling the leaf dehydration dehydration slowly or quickly more or less shall depend on the external environment and internal condition of the plant itself is 1. lighting. If the intensity of the lighting gives a higher dehydration rate 2.If the temperature of the temperature high atmosphere will make the dehydration is very fast. This is because . (1) when the temperature is high. The temperature of the water is higher. The water evaporation is an easy and faster. It evaporates from the greater and faster with (2) when a low temperature. An external antenna can SOP up even more steam, the stoma opening better at temperature 25-30° c 3.Moisture if moisture in the atmosphere has less moisture in the air is quite different with the humidity. In the air space in the lot makes dehydration occur more quickly and. The air humidity is minimal and dehydration.